ในวงการอุตสาหกรรมการมีอยู่ของกระบวนการ ‘เคลือบสี’ นับเป็นส่วนสำคัญก่อนที่เราจะสามารถใช้คำว่าเสร็จสมบูรณ์ในชิ้นงานได้จริง โดยที่ไม่ว่าจะเป็นการทำตู้ระบบอัตโนมัติสำหรับใช้งานในห้าง บริษัท อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านทุกชิ้นที่อยู่ในครัว ห้องนั่งเล่น จนไปถึงห้องนอนเอง ทุกชิ้นก็จำเป็นจะต้องเคลือบผิววัสดุนั้น ๆ ด้วยสี ไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มความสวยงาม แต่ยังเป็นการกำหนดลักษณะเฉพาะให้กับผลิตภัณฑ์อีกด้วย
และหนึ่งในการเคลือบสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ‘การพ่นสีฝุ่น (Powder Coating)’ การเคลือบสีในลักษณะนี้แตกต่างกับการเคลือบสีแบบอื่นอย่างไร มีข้อดี ข้อเสียอะไรที่ต้องคำนึงบ้าง ตามไปอ่านพร้อมกันได้เลย
สีฝุ่น หรือ Powder Coat คืออะไร ?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ สีฝุ่น (Powder Coat) เจ้าสิ่งนี้ก็คือสีที่มีเนื้อสัมผัสในลักษณะของผงคล้ายกับแป้ง ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญประกอบไปด้วย สาร Curing Agent / เรซิน (Resin) / สารเติมแต่ง (Additive) / แม่สี (Pigment) วิธีการทำงานของกระบวนการพ่นสีคือ ใช้อุณหภูมิความร้อนเข้ามาทำปฏิกิริยา แล้วสีที่มีความละเอียดนี้ก็จะเคลือบอยู่บนวัตถุ หลังจากนั้นก็จะมีการอบความร้อนเพื่อให้เม็ดสีละลายอีกครั้ง เกิดเป็นชั้นสีที่มีมิติละเอียด รวมไปถึงสีเกาะอยู่บนวัตถุอย่างแข็งแรงไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมไหน ซึ่งการพ่นสีฝุ่นจะนิยมใช้ในงานของโลหะ อลูมิเนียม และเหล็ก ไปจนถึงใช้กับสังกะสีเพื่อช่วยเคลือบเนื้อวัสดุให้ทนทานต่อการกัดกร่อนของสนิม
ชวนรู้จักประเภทของสีฝุ่นที่คุณต้องรู้จัก
การแบ่งประเภทของสีฝุ่นนั้นจะสามารถแบ่งได้หลัก ๆ เป็น 2 รูปแบบ ด้วยการแบ่งตามลักษณะทางเคมีของและจำแนกตามสารพอลิเมอร์ที่เป็นส่วนประกอบหลักในเนื้อสีฝุ่น ดังนี้
1. สีฝุ่นเทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting Powder Coatings) : คุณลักษณะพิเศษของสีประเภทนี้คือการที่เมื่อเจอกับความร้อนจะทำให้เกิดปฏิกิริยา Cross-linking อันเป็นสิ่งที่ทำให้โมเลกุลในเนื้อสีเชื่อมต่อกันสร้างโครงที่แข็งแรง และไม่ว่าจะนำไปใช้พ่นกับวัตถุอะไร ก็จะได้ชั้นสีที่หนาแน่น แข็งตัวอย่างถาวร ทนต่อการหลอมละลายของความร้อน เป็นสีที่มักถูกใช้ในวัสดุที่ต้องการความทนต่อสารเคมีเป็นหลัก
แล้วภายใต้สีฝุ่นประเภท Thermosetting Powder Coatings ยังแบ่งย่อยออกได้อีก 3 ประเภท ตามการใช้งานที่ต่างกันออกไป
1.1 สีฝุ่นประเภทอีพ็อกซี่ (EP) : หากใครที่กำลังมองหาการพ่นสีฝุ่นที่จะทำให้อุปกรณ์ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก สีฝุ่นประเภทอีพ็อกซี่ คือสีที่เหมาะ และค่อนข้างตอบโจทย์
1.2 สีฝุ่นประเภทโพลีเอสเตอร์ (PE) : วัตถุที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น แดด ลม และฝน ก็ควรเลือกใช้วัสดุ PE เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษในการทนทานต่อรังสี UV ไม่ว่าจะเป็นรั้วบ้าน จานดาวเทียม หลังคาบ้าน หรือแม้แต่รถยนต์ ก็เหมาะสำหรับการใช้งานวัสดุนี้
1.3 สีฝุ่นประเภทไฮบริด : สีฝุ่นประเภทไฮบริดนั้น เกิดจากการนำจุดเด่นของ EP และ PE มาผสมสร้างขึ้นใหม่ จึงเกิดเป็นสีฝุ่นคุณลักษณะพิเศษที่ทนทานต่อความร้อน และให้ความเงางามในเวลาเดียวกัน จึงนิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก
2. สีฝุ่นเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic Powder Coatings) : ต่างกันกับประเภทก่อนหน้า สีชนิดนี้เมื่อโดนความร้อนจะไม่เกิดปฏิกิริยา Cross-linking แต่ยังคงหลอมละลายได้เมื่อนำเข้าเตาอบความร้อนสูง แล้วจะค่อย ๆ แข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดลง ทำให้เป็นสีที่เหมาะกับการใช้ในงานจำพวกที่ต้องการเคลือบสีที่มีความยืดหยุ่นและใช้ในจุดของการซ่อมแซมภายใน ไม่ว่าจะเป็นพวกชิ้นส่วนของรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้สีฝุ่นเทอร์โมพลาสติกยังมีข้อดีที่สำคัญมาก ๆ อีกข้อนั่นคือ การใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำกลับมาหลอมละลายใช้ใหม่ได้
อะไรคือข้อดีของการพ่นสีฝุ่น
อย่างที่เกริ่นไปเบื้องต้นว่า Thermoplastic Powder Coatings เป็นสีฝุ่นที่โดดเด่นในเรื่องความยั่งยืน และใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น เพราะสีฝุ่น มีข้อดีมากกว่าที่คิด
ไม่มีสารระเหย (VOC)
เพราะว่าสีฝุ่นใช้ความร้อนในการหลอมละลายสีให้ติดกับวัตถุ และไม่ต้องใช้สารระเหยในการทำละลาย จึงปลอดภัยต่อทั้งสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อทั้งคนทำงานพ่นสี เพราะไม่สร้างกลิ่นฉุน และเป็นอันตรายต่อปอดเท่ากับสีน้ำมัน
สร้างสีสวยงาม
การเป็นสีที่นิยมถูกใช้ในอุตสาหกรรมก็เป็นเพราะว่าสีฝุ่นนั้นสร้างความเรียบเนียนของสีได้มากกว่าสีน้ำมัน ทั้งยังมีความหนาของชั้นสีที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะพ่นเพียงครั้งเดียวก็ตาม
ประหยัดต้นทุนลงไปได้มาก
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าสามารถรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 1 ครั้ง (เนื่องจากผงสีจะไม่หลอมละลายหากถ้าไม่โดนความร้อน) จึงทำให้สีฝุ่นช่วยประหยัดต้นทุนลงไปได้มากเมื่อเทียบกับสีอื่นที่ใช้ได้ครั้งเดียว และหากใช้ไม่หมดก็จะเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ไปเลย
เนื้อสียึดเกาะติดแน่นทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
คุณสมบัติเด่นที่ใครก็หลงรักคือ นอกจากจะสีสวยแล้ว สีฝุ่นยังเกาะติดวัตถุแบบทนยาว รวมถึงช่วยปกปิดชั้นโลหะจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะสภาวะของความร้อน ความชื้น สารเคมีต่าง ๆ และลดการเกิดสนิมได้ด้วย
ป้องกันการลามไฟ
Safety First! ด้วยโครงสร้างของสีฝุ่นที่เป็นผงละเอียด พอนำไปอบกับความร้อนจะเกิดชั้นเคลือบอันแข็งแรงและทึบสนิท รวมถึงมีส่วนประกอบของเรซินที่เป็นฉนวนกันไฟ พร้อมกันก็ไม่มีการผสมตัวทำละลายประเภทแอลกอฮอลล์ ทำให้ป้องกันการเกิดไฟอย่างดี
วิธีการเลือกสีฝุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง
สีฝุ่นแบบผิวเรียบ : เป็นประเภทที่ต้องการงานสวยงามต่าง ๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ แล้วสีฝุ่นประเภทนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องพื้นผิวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการพ่นสีฝุ่น
สีฝุ่นแบบผิวหนังไก่หรือลายย่น : หากต้องการแก้หรือปกปิดตำหนิของวัตถุที่มีรอยย่นของตู้ไฟหรือประตูเหล็ก จำเป็นที่จะต้องใช้สีประเภทนี้
สีฝุ่นแบบผิวเม็ดทราย : สีประเภทสุดท้ายเป็นสีที่ใช้ในการทำให้วัตถุเรียบเนียนมากที่สุด มาพร้อมกับผิวสัมผัสของเม็ดทราย ทำให้เหมาะกับการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงเราจะเห็นบ่อย ๆ กันในงานตู้แอมป์เครื่องเสียง
เหตุผลที่ GOLDENDUCK STEEL อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับสีฝุ่น ไม่ใช่แค่เพราะเราอยากให้คุณได้ผลงานที่ทั้งสวยงามและทนทาน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุประเภทใด แต่ยังรวมถึงการมุ่งเน้นความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ทั้งต่อตัวคุณ รวมถึงคนรอบข้าง
และ GOLDENDUCK STEEL เราก็มีบริการพ่นสี Powder Coating ที่ยอดเยี่ยมที่สุด มาตรฐานในสีและทีมช่างเทคนิคมืออาชีพเฉพาะทาง ไม่ว่าคุณจะต้องการบริการระดับเล็ก ๆ อย่างโป๊วเก็บรอยชิ้นงานต่าง ๆ ไปจนถึงโครงสร้างขนาดใหญ่ เราก็บริการระดับมาตรฐานสูงสุด ที่งานละเอียด รวดเร็ว มีเฉดสีมากมายให้เลือกตอบโจทย์ทุกแบบ (รวมไปถึงการ Customize Special Color)
และนี่คือ 3 ขั้นตอนการทำ Powder Coating ของ GOLDENDUCK STEEL
ลูกค้าสามารถเลือกพื้นผิวได้ทั้งแบบมันเงาและด้าน สุดท้าย! ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าสีฝุ่นเหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการการเคลือบสีของตัวเองหรือเปล่า สามารถปรึกษาด้านเทคนิคกับ GOLDENDUCK STEEL ได้ทุกเรื่อง ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน เราสามารถตอบโจทย์การพ่นสีที่ได้ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน
Add a Comment